จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้หลายฝ่ายต่างหามาตรการรักษาความสะอาดและความปลอดภัย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว ธุรกิจร้านอาหารนับว่าเป็นอีกธุรกิจที่มีความใกล้ชิดและมีการสัมผัสระหว่างพนักงานกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการรับ - ส่งอาหาร การชำระค่าอาหาร ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ยังมีมาตรการป้องกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการผ่านช่องทางไดร์ฟ ทรู และเดลิเวอรี่ ที่ปัจจุบันพบว่ามีดีมานด์ หรือปริมาณการใช้ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง
นายประพัฒน์ เสียงจันทร์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “เบอร์เกอร์คิง” หนึ่งในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร ได้ประกาศมาตรการป้องกันการรักษาความสะอาดและความปลอดภัย ภายใต้แนวคิด “ขอให้เราได้มีส่วนร่วมดูแลคุณ” โดยมุ่งเน้นการให้บริการในรูปแบบไม่สัมผัสซึ่งกันและกันระหว่างลูกค้ากับพนักงาน หรือ Contactless โดยได้เพิ่มมาตรการด้านความสะอาดให้เคร่งครัดมากขึ้นกว่าเดิม จากเดิมที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเช็ดล้าง และทำความสะอาดภาชนะต่างๆ รวมถึงการทำความสะอาดบริเวณที่มีการสัมผัสบ่อยครั้ง โดยได้เพิ่มมาตรการสัมผัสให้น้อยลงสำหรับผู้ที่มาใช้บริการไดร์ฟ ทรู และเดลิเวอรี่ บริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องของมาตรการป้องกันและรักษาความสะอาดซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการรักษาความสะอาดและความปลอดภัยด้วยการปฏิบัติตามมาตรฐานระดับสากลที่ใช้กับเบอร์เกอร์คิงทั่วโลก จึงมั่นใจได้ว่าบริษัทยังคงรักษามาตรฐานรักษาความสะอาดและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง โดยมีขั้นตอนปฏิบัติดังนี้
1. พนักงานจะต้องล้างมือทุก 1 ชั่วโมง และเพื่อเป็นการป้องกันที่มากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาด จึงเพิ่มความถี่ในการล้างมือของพนักงานอย่างน้อยทุก 30 นาที ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่ได้มาตรฐาน
2. เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อยครั้ง เช่น หน้าจอ POS, Tablet สำหรับเดลิเวอรี่ โต๊ะสำหรับลูกค้าที่นั่งรับประทานอาหาร เก้าอี้ ที่จับประตู และ Self – ordering kiosk หลังจากใช้ หรือ อย่างน้อยทุก 1 ชั่วโมง
3. เตรียมจุดบริการน้ำยาแอลกอฮอล์ในการฆ่าเชื้อสำหรับลูกค้า ก่อนที่จะรับประทานอาหารเพื่อสุขอนามัยที่ดี
4. สำหรับบริการไดร์ฟ ทรู (Drive Thru) เมื่อลูกค้าชำระเงินค่าอาหาร พนักงานจะต้องใช้ถาดในการรับเงินเพื่อลดการสัมผัส
5. สำหรับบริการไดร์ฟ ทรู (Drive Thru) พนักงานที่ส่งมอบอาหารให้ลูกค้าจะต้องใช้ถาดเท่านั้น
6. ใช้ Social Distancing การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล สำหรับการเข้าคิวสั่งอาหาร โดยการใช้เส้นกำหนดระยะให้รักษาความห่างอย่างน้อย 1 เมตร
7. พนักงานจะต้องสวมหน้ากากอนามัยในขณะปฏิบัติงานทุกครั้ง และต้องตรวจวัดอุณหภูมิจะต้องไม่เกิน 37.5 องศา หากพบว่ามีอุณหภูมิเกิน พนักงานจะถูกส่งกลับบ้านทันที ถ้ากรณีที่พบว่ามีไข้สูง หรือมีอาการไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล และหายใจติดขัด พนักงานจะต้องไปพบแพทย์ทันที และต้องพักเป็นเวลา 14 วัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้จัดทำระบบเพื่อแจ้งถึงขั้นตอนการปฏิบัติงาน โดยมุ่งเน้นในเรื่องของลดการสัมผัสให้น้อยที่สุดระหว่างลูกค้ากับพนักงาน ด้วยการใช้ถาดในการรับชำระค่าอาหาร รวมถึงการใช้ถาดในการส่งมอบอาหารทุกครั้งเมื่อใช้บริการช่องทางไดร์ฟ ทรูและเดลิเวอรี่ ทั้งนี้ปัจจุบันเบอร์เกอร์คิงมีจำนวนพนักงานรวมทั้งสิ้น 1,598 คน สาขากว่า 115 สาขา และในนั้นมีบริการไดร์ฟ ทรูถึง 39 แห่ง โดยมีการเติบโตที่สูงขึ้นต่อเนื่อง จาก 7% เพิ่มเป็น 17% ตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19
นอกจากนี้ “เบอร์เกอร์คิง” ได้จัดโปรโมชันส่งฟรีเดลิเวอรี่ (Free Delivery) รวมทั้งโปรโมชัน ซื้อ 1 แถม 1 เช่น เมนูเบอร์เกอร์ไก่ชิ้นยาว และวอปเปอร์จูเนียร์ชีส เพียงซื้อครบ 150 บาทขึ้นไป ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน Burger king Thailand และเว็บไซต์ www.burgerking.co.th ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 16 เมษายน 2563
ตู้ตรวจเชื้อ SWAB TEST ของ สจล. 2 เวอร์ชัน ประเดิมส่งมอบแก่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เพื่อเป็นตัวช่วยของแพทย์ให้คัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 อย่างปลอดภัย
Copyright © 2020 JC&CO | All Rights Reserved